วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ต่างที่คิดชีวิตจึงต่าง

สวัสดีครับผมเองเป็นคนที่ชอบซื้อหนังสือแต่ไม่ชอบอ่านสักเท่าไหร่เลยครับ หนังสือบางเล่มซื้อไว้นานมากกว่าจะได้อ่านก็ผ่านมาหลายปีมากๆ แต่มีหนังสือของอาจารย์สมคิด ลวางกูรนี้แหละครับ ที่ผมอ่านจบเร็วที่สุด เพราะอาจารย์สมคิด ลวางกูร สอดแทรกเนื้อหาสาระที่สำคัญกับมุกตลกๆทำให้หนังสือของอาจารย์สมคิด ลวางกูรทุกเล่มเป็นหนังสือที่อ่านง่ายแต่มากด้วยสาระ

 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมบังเอิญต้องพาน้องสาวไปบิ๊กซี ผมจึงต้องแวะร้า่นหนังสือเพื่อรอน้องสาว ผมก็ได้ไปเปิดอ่านหนังสือของอาจารย์สมคิด ลวางกูร ชื่อว่าสุดยอด...หนังสือดี... 9 ตอน..ต่างที่คิด...ชีวิตจึงต่าง... โดย พิพิธ พุ่มแก้ว ผมเปิดอ่านหนึ่งตอน ซึ่งพออ่านแล้วประทับใจมากผมจึงตัดสินใจซื้อ



หลังจากอ่านหน้าแรกๆๆจึงทราบว่าอาจารย์สมคิด ลวางกูร เอาเนื้อหาจากการอบรมจากอาจารย์พิพิธ พุ่มแก้ว มา
rewrite  ในแบบฉบับของอาจารย์สมคิด คือ มันส์ ฮ่า มีสาระ ผมขอยกตัวอย่างเนื้อเรื่องบางตอนครับ 

"เริ่มต้นด้วย...จงระวังความคิดของเราให้ดี!!! เพราะแว็บแรกของความคิดเรามักจะขาดการไตร่ตรอง ไม่รอบคอบ เป็นความคิดเพื่อตัวเอง เป็นความเห็นแก่ตัว สิ่งที่ถูกต้องและความเป็นจริงมักจะอยู่ตรงกันข้ามกับความคิดแว็บแรกของเรา เสมอ สิ่งสำคัญ คือ “ความคิด” --> เพราะความคิดจะนำไปสู่คำพูด --> คำพูดจะกลายเป็นการกระทำ (พฤติกรรม) --> การกระทำซ้ำๆ จะทำให้เป็นนิสัย --> นิสัยบ่มเพาะเป็นบุคลิกภาพ --> และสุดท้ายบุคลิกภาพนำไปสู่ชะตาชีวิต
ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดของใครได้..ถ้าเจ้าตัวไม่ยอมเปลี่ยน แต่เมื่อใดที่เราเผลอใจให้ลอยไปกับความคิดแว็บแรกที่ขาดการไตร่ตรองที่ ดี..เรามักอยากเปลี่ยนความคิดหรือพฤติกรรมของคนอื่น เช่น คนนั้นน่าจะเป็นอย่างนี้ คนนี้น่าจะทำอย่างนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้..เสียเวลา..หรือถ้าคนผู้นั้นเขาเปลี่ยนความ คิดหรือพฤติกรรมตามอย่างที่เราชอบ อย่างที่เราอยากให้เป็น..ขอถามว่า..แล้วชีวิตของเราดีขึ้นตรงไหน น่าเสียดายเวลา 24 ชั่วโมงของเราเหลือเกินที่มัวแต่มาเสียเวลาคิดแต่เรื่องของคนอื่น
อ.พิพิธ อธิบายรูปแบบของความคิดและวิธีการปรับเปลี่ยนความคิด โดยใช้ทฤษฎีหน้าต่าง 4 บานของโจฮารี ดังนี้
1. หน้าต่างที่ตนเองรู้ผู้อื่นก็รู้ เปรียบได้กับเรื่องทั่วๆ ไป ที่ตัวเราเองรู้ว่าตัวเราเป็นอย่างไร ถ้าต้องการให้ผู้อื่นรู้ ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจเรา ก็เพียงแค่เปิดใจ เช่น เราไม่ดื่มกาแฟ แต่เวลาไปประชุมที่ไหนก็มักจะจัดกาแฟไว้ให้เสมอ ถ้าเราไม่เปิดใจบอกผู้จัดเตรียมอาหารว่าง เขาก็ย่อมไม่รู้ แต่ถ้าเราบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเราดื่มกาแฟแล้วใจสั่น ขอเป็นโกโก้หรือน้ำชาแทน เปิดใจให้เขารู้ เขาก็จะเข้าใจเราและกระทำต่อเราตามสิ่งที่เราต้องการได้
2. หน้าต่างที่ตนเองรู้แต่ผู้อื่นไม่รู้ เปรียบได้กับเรื่องส่วนตัวหากเราไม่เปิดเผยเรื่องนั้นก็จะเป็นความลับ ถ้าเราไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้เรื่องส่วนตัวของเรา..ก็เก็บไว้ไม่ต้องบอกใคร ในขณะเดียวกันเราก็ควรเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น ไม่ควรสอดรู้สอดเห็นในเรื่องส่วนตัวที่ผู้อื่นเขาอาจต้องการให้เป็นความลับ ก็ได้
3. หน้าต่างที่ตนเองไม่รู้แต่ผู้อื่นรู้ หมายถึงจุดบอดของตนเองซึ่งเราไม่รู้ เช่น เรามีกลิ่นตัว มีกลิ่นปาก ตัวเราเองไม่รู้แต่คนรอบข้างเราเบือนหน้าหนี กรณีอย่างนี้เราต้องพร้อมยอมรับฟังคำแนะนำหรือคำบอกกล่าวของผู้อื่น เมื่อใดที่มีคนมาบอก จุดบอดของเราต้องขอบคุณคนผู้นั้น และปรับปรุงแก้ไขตนเองลบหรือลดจุดบอดให้เหลือน้อยที่สุด
4. หน้าต่างที่ตนเองก็ไม่รู้และผู้อื่นก็ไม่รู้ หมายถึงเรื่องเร้นลับ ซึ่งในโลกนี้ยังมีเรื่องเร้นลับอีกมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ สิ่งสำคัญ คือ เราต้องรู้จักใช้เหตุใช้ผลในการวิเคราะห์เรื่องเร้นลับต่างๆ อะไรที่เราเชื่อแล้วทำให้ชีวิตเดือดร้อน..วุ่นวาย..เป็นทุกข์..ให้หยุดเชื่อ แต่ถ้าเชื่อแล้วชีวิตรุ่งเรือง..สดชื่น..มีความสุข..ไม่เดือดร้อนผู้อื่น.. ก็เชื่อไปเถอะ
หากเราไม่เปลี่ยนความคิด..ชีวิตไม่เปลี่ยน ซึ่งเราสามารถฝึกฝนตัวเราให้เป็นผู้ไตร่ตรองในความคิดได้..โดยเริ่มต้นด้วย การ “คิดให้เป็น” กล่าวคือ เมื่อเริ่มต้นความคิดต้องคิดให้รอบคอบ..คิดในเชิงบวก..คิดให้สร้าง สรรค์..และคิดเพื่อผู้อื่น..เมื่อคิดรอบคอบแล้วจึงพูด..จึงกระทำ สูตรสำเร็จของการทำให้ชะตาชีวิตของเราประสบความสำเร็จ ก็คือ ระวังความคิดที่ตามใจตัวเอง..เพราะฝืนใจได้..ตามใจเสีย - ลองไปถามคนอ้วนๆ ดูสิว่าเขาฝืนใจหรือตามใจตนเอง
- ลองไปถามคนสูบบุหรี่ดูสิว่าเขาฝืนใจหรือตามใจตนเอง
- ลองไปถามคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตดูสิว่าเขาฝืนใจหรือตามใจตนเอง
เปลี่ยนความคิดของท่านให้เป็นคนที่ “คิดเป็น” เสียแต่บัดนี้..แล้วชีวิตท่านจะมีแต่ความสุข...สวัสดี"

2 ความคิดเห็น:

  1. อยากได้มากคับมีเล่มนึงพี่เอาไปแล้วหายเลยหายากมากๆ

    ตอบลบ

 

Copyright © ไอเดียชีวิต Design by O Pregador | Blogger Theme by Blogger Template de luxo | Powered by Blogger