วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พีระมิดแห่งความสาเร็จ

   John Wooden เป็นโค้ชทีมบาสเกตบอลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา มีเทคนิคในการสอนลูกทีมให้ประสบความสาเร็จ สามารถนาทีมไปสู่ชัยชนะ โดยใช้หลักการ “พีระมิดแห่งความสาเร็จ” หรือ “The Pyramid of Success” ซึ่งลูกทีมทุกคนสามารถจดจาและนาไปใช้ได้ทั้งในสนามการแข่งขันและในการดาเนินชีวิต

    หลักการของ Wooden มีรากฐานมาจาก "พีระมิดแห่งความสาเร็จ" ของเขา ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักกันดีอยู่แล้ว เป็นสูตร 15 ขั้นสู่ชัยชนะ ซึ่งได้แก่ ความขยัน มิตรภาพ ความซื่อสัตย์ ความร่วมมือ ความกระตือรือร้น การควบคุมตนเอง การตื่นตัว การริเริ่ม การทางานเป็นทีม ทักษะ สภาพเงื่อนไข ความสุขุม ความเชื่อมั่น และความอยากแข่งขัน และความเชื่อต่างๆ ที่ Wooden มีอยู่ มาจากหลากหลายแหล่ง ตั้งแต่ Benjamin Franklin แม่ชี Theresa จนถึงบิดาของเขาเอง Joshua Wooden

 "จงมีชีวิตเหมือนกับว่าคุณจะตายพรุ่งนี้ แต่จงเรียนรู้เหมือนกับว่า คุณจะมีชีวิตอยู่ไปตลอดกาล" คือแนวคิดที่ Wooden เห็นว่าเป็นหัวใจของผู้นา กล่าวคือการเร่งแสวงหาความรู้โดยเร่งด่วน Wooden ให้ความสาคัญกับความไว้วางใจ เพราะหากปราศจากความไว้วางใจระหว่างทีมกับผู้นา ก็ไม่ใช่ทีมที่แท้จริง แต่เป็นเพียงการมารวมกันของคนแต่ละคน ซึ่งไม่อาจทาอะไรได้มากนัก Wooden เชื่อว่า ดาวเด่นของทีม ก็คือตัวทีมทั้งทีม หาใช่ใครคนใดคนหนึ่งในทีม ไม่ว่าคนคนนั้นจะอัจฉริยะเพียงใด

กฎแห่งการเรียนรู้ 4 ข้อของ Wooden คือ อธิบาย ทำให้ดู ให้ทำตาม และทำซ้ำๆ Wooden ชี้ว่า สิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคุณค่า ทัศนคติหรืออุดมการณ์ ที่คุณต้องการให้ทีมของคุณได้เรียนรู้ วิธีสอนที่ดีที่สุดก็คือ คุณต้องทาสิ่งนั้นด้วยตัวคุณเอง Wooden เน้นว่า จงอย่าบอกใคร ให้ทาอะไร อย่างไร แต่จงทาให้เขาดู และหากว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น "จงเข้มงวดกับตัวคุณเอง ในการทาตัวเป็นตัวอย่างให้แก่ทีม ก่อนที่จะมีใครมาสอนคุณ"

 ดังนั้น เราจึงสามารถนาหลัก ”พีระมิดแห่งความสาเร็จ” มาปรับใช้กับการทางานก็จะนาคุณไปสู่ความสาเร็จได้เช่นเดียวกัน ซึ่งคุณลักษณะของคนที่จะประสบความสาเร็จของ John Wooden ที่แบ่งพีระมิด ออกเป็น 5 ชั้น ซึ่งประกอบด้วย
ขั้นที่ 1
1. มีความขยัน
2. สร้างสัมพันธภาพ
3. มีความจงรักภักดี
4. ให้ความร่วมมือ
 5. มีความกระตือรือร้น

ขั้นที่ 2 
6. มีความสามารถในการควบคุมตนเอง (มีวินัย)
 7. มีความตื่นตัว (มีความกระปรี้กระเปร่า)
8. มีความคิดริเริ่ม (คิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลง)
9. มีความมุ่งมั่นตั้งใจ (แน่วแน่, มั่นคง)
ขั้นที่ 3 
10. มีทักษะความสามารถ หมายถึง ทักษะความสามารถในสิ่งที่จะทางาน
 11. มี Team Spirit หรือ มีจิตวิญญาณในการทางานเป็นทีม
 12. มีความสามารถในการปรับสภาพเงื่อนไขให้เข้ากับสิ่งที่จะทา (Condition) /มีความสามารถเตรียมสภาพให้พร้อมกับสิ่งที่จะทา
 ขั้นที่ 4
 13. มีบุคลิกภาพที่ดี ทั้งท่าทาง, ท่าทีและกริยา
 14. มีความมั่นใจ
ขั้นที่ 5
 15. มีน้าใจเป็นนักกีฬา/ มุ่งเน้นสู่ชัยชนะ


อาจกล่าวได้ว่า “พีระมิดแห่งความสาเร็จ” เป็น Job Requirement ที่องค์กรพึงประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีอยู่ในตัวตนผลลัพธ์แห่งความสาเร็จ ก็เกิดกับบุคคลและส่งผลกับองค์กร ความสาเร็จ: ที่ถูกต้อง คือ เอาชนะตนเองเพื่อสู่ความเป็นเลิศ

John Woodden ในฐานะโค้ชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ได้ให้คาแนะนาแนวทางสู่ความสาเร็จของการทางานเป็นทีมไว้ว่า ธุรกิจก็คล้ายกีฬาเป็นเรื่องของการแข่งขัน การทางานเป็นทีม ที่ทุกคนในทีมถูกร้อยรัดไว้ด้วยการมีเป้าหมายร่วมกัน มีกฎกติกาในการเล่นให้ถูกต้องเพื่อที่จะประสบความสาเร็จ และคุณต้องเล่นเพื่อชนะเท่านั้น แต่สิ่งที่อาจจะสาคัญที่สุดคือ หากไม่มีโค้ชผู้สามารถ ผู้ซึ่งเชื่อในคุณและรู้วิธีสร้างทีม ทุกสิ่งทุกอย่างก็อาจพังครืนลงมาได้

 "สิ่งที่ผมสอนเกี่ยวกับการสร้างทีม ไม่ได้มีอะไรแปลกพิสดารเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ต้องการพรสวรรค์พิเศษ เอกสิทธิ์ หรืออานาจ..." John Wooden กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ The Essential Wooden : A Lifetime of Lessons on Leaders and Leadership เขาคือโค้ชเกียรติยศของ UCLA ผู้ชนะแชมป์ระดับชาติ 10 ครั้งใน 12 ปี ได้รับยกย่องจาก ESPN ให้เป็น "โค้ชแห่งศตวรรษ" และเป็นนักบาสเกตบอลเพียงคนเดียวที่ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศบาสเกตบอล ทั้งในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมและโค้ชยอดเยี่ยม "...หากแต่ต้องการเพียงความเอาจริงเอาจังในหลักการและแนวคิดบางประการเท่านั้น" Wooden กล่าว

กระหายชัยชนะ
Wooden รักษาความอยากที่จะแข่งขัน ด้วยการกระตุ้นให้ทีมกระหายในชัยชนะอยู่ตลอดเวลา เขาเห็นว่า แม้ความสามารถโดยธรรมชาติจะสาคัญ แต่คุณสมบัติอย่างการมีทัศนคติที่ถูกต้อง ความเร็ว ความตรงต่อเวลา ความแข็งกร้าว และการรู้จักเล่นเป็นทีม ก็สาคัญในการมองหาคนที่จะมาเป็นสมาชิกในทีม Wooden ยังเตือนว่า คนที่ฉลาดมากเท่าใด ยิ่งยากที่จะสอนให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมมากเท่านั้น Wooden เห็นว่า จะต้องทาให้ทีมรู้สึกหิวกระหายอยู่ตลอดเวลา เพราะหากคุณยินดีปรีดาเมื่อบรรลุเป้าหมาย คุณจะสูญเสียความอยากที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพราะคุณจะเชื่อว่า ความสาเร็จในอดีตจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยที่ไม่ต้องพยายามให้มากขึ้น และคุณจะหยุดฟังและหยุดเรียนรู้

 Wooden ชี้ด้วยว่า ผู้นาของทีมจะต้องยอมรับความผิดเมื่อทีมพลาด ต้องให้ความสาคัญกับทีมเป็นอันดับแรก มองตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม ไม่ใช่เหนือกว่าทีม อย่าอาฆาตแค้นศัตรู และจงฟังให้บ่อยเท่ากับพูด



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Copyright © ไอเดียชีวิต Design by O Pregador | Blogger Theme by Blogger Template de luxo | Powered by Blogger